PFAS ในบรรจุภัณฑ์กระดาษ ภัยเงียบที่อาจกระทบสุขภาพ
PFAS ในบรรจุภัณฑ์กระดาษอาจเป็นภัยเงียบต่อสุขภาพ สารเคมีนี้สามารถปนเปื้อนในอาหารและสะสมในร่างกาย เสี่ยงต่อโรคมะเร็ง ฮอร์โมนผิดปกติ
รู้หรือไม่? หมึกพิมพ์ที่คุณใช้ทุกวันอาจมีสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ เรียนรู้วิธีลดความเสี่ยงจากเครื่องพิมพ์เลเซอร์และหมึกพิมพ์อิงค์เจ็ต พร้อมวิธีป้องกันที่ง่ายและได้ผล
เคยสงสัยไหมว่าทำไมเวลาอยู่ใกล้เครื่องพิมพ์หรือเปลี่ยนตลับหมึกบางครั้งถึงรู้สึกเวียนหัว หรือบางทีมีอาการไอโดยไม่รู้สาเหตุ? นั่นอาจเป็นเพราะ หมึกพิมพ์ มีสารเคมีที่สามารถส่งผลต่อสุขภาพได้ หากเราไม่รู้จักป้องกันตัวเองให้ดีพอ
ปัจจุบัน เครื่องพิมพ์เลเซอร์ และ เครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ต เป็นอุปกรณ์ที่พบได้ในโรงเรียน สำนักงาน และบ้านแทบทุกแห่ง แต่สิ่งที่หลายคนอาจไม่รู้คือ สารเคมีในหมึกพิมพ์ บางชนิดสามารถระเหยในอากาศและถูกสูดดมเข้าสู่ร่างกาย ซึ่งอาจเป็นอันตรายในระยะยาว
แม้ว่าหมึกพิมพ์จะดูไม่มีพิษภัย แต่ประกอบไปด้วย สารเคมีที่อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพ โดยเฉพาะเมื่อเราต้องอยู่ใกล้หรือสัมผัสเป็นประจำ นอกจากหมึกพิมพ์แล้ว กระดาษที่เราใช้เองก็อาจมีสารตกค้างที่ไม่คาดคิด โดยเฉพาะกระดาษรีไซเคิล ซึ่งบางครั้งอาจมีสารปนเปื้อนที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ถ้าอยากรู้ว่าสารเคมีในกระดาษรีไซเคิลมีอะไรบ้าง อ่านต่อได้ที่ รู้ก่อนใช้! กระดาษรีไซเคิลกับสารตกค้างที่อาจเป็นอันตราย
ไม่ใช่แค่หมึกพิมพ์เท่านั้นที่มีสารเคมีอันตราย แต่ภาชนะบรรจุอาหารที่ทำจากกระดาษก็อาจมีความเสี่ยงเช่นกัน โดยเฉพาะเมื่อนำไปใส่อาหารร้อนหรือของทอด ซึ่งอาจทำให้สารเคมีซึมเข้าสู่อาหารได้ สนใจอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับความเสี่ยงนี้ที่ กล่องกระดาษกับอุณหภูมิอาหาร มีผลต่อสุขภาพอย่างไร?
รู้หรือไม่ว่า นอกจากหมึกพิมพ์แล้ว ยังมีสารอีกชนิดหนึ่งที่ถูกใช้ในบรรจุภัณฑ์กระดาษและอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพ นั่นคือ PFAS หรือสารเคลือบกันน้ำมัน ซึ่งอาจสะสมในร่างกายและเป็นอันตรายในระยะยาว หากอยากรู้ว่า PFAS คืออะไร และมันซ่อนอยู่ที่ไหนบ้าง ลองอ่านที่ PFAS ในบรรจุภัณฑ์กระดาษ ภัยเงียบที่อาจกระทบสุขภาพ
การได้รับสารจากหมึกพิมพ์อาจทำให้เกิดผลกระทบต่อร่างกายทั้งในระยะสั้นและระยะยาว
แม้ว่าหมึกพิมพ์จะส่งผลกระทบต่อทุกคน แต่บางกลุ่มอาจได้รับผลกระทบมากกว่าคนอื่น
แม้ว่าจะเลิกใช้หมึกพิมพ์ไม่ได้ แต่เราสามารถลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นได้
ถึงแม้ว่าหมึกพิมพ์จะเป็นสิ่งที่เราใช้กันเป็นปกติในชีวิตประจำวัน แต่ก็มี สารเคมีที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ได้หากเราไม่ได้ระมัดระวัง เราอาจไม่สามารถหลีกเลี่ยงการใช้เครื่องพิมพ์ได้ทั้งหมด แต่สามารถ ลดความเสี่ยง ได้ง่ายๆ เช่น เลือกหมึกพิมพ์ที่ปลอดภัยกว่า ตั้งเครื่องพิมพ์ในที่ที่อากาศถ่ายเท และลดการสัมผัสกับหมึกโดยตรง
หากเราปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ ก็จะช่วยให้เราห่างไกลจากอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจาก สารเคมีในหมึกพิมพ์ ได้มากขึ้น อีกทั้งยังเป็นการดูแลสิ่งแวดล้อมไปพร้อมกันอีกด้วย
หมึกพิมพ์บางชนิดอาจมีสารเคมีที่เป็นอันตราย เช่น สารระเหยอินทรีย์ (VOCs) โลหะหนัก และฝุ่นจากเครื่องพิมพ์เลเซอร์ ซึ่งอาจส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจ ผิวหนัง และสุขภาพในระยะยาว หากสัมผัสหรือสูดดมเป็นประจำ
หมึกพิมพ์เลเซอร์มักปล่อยอนุภาคฝุ่นขนาดเล็ก (Ultrafine Particles – UFPs) ซึ่งอาจเข้าสู่ปอดและระบบไหลเวียนโลหิต ส่วนหมึกพิมพ์อิงค์เจ็ตอาจมีสารระเหยอินทรีย์ (VOCs) ที่ส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจ ดังนั้น ทั้งสองแบบมีความเสี่ยงแต่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับสารเคมีที่ใช้
กลุ่มที่ควรระวังเป็นพิเศษ ได้แก่ นักเรียนและพนักงานออฟฟิศที่ใช้เครื่องพิมพ์เป็นประจำ ช่างพิมพ์และพนักงานในโรงพิมพ์ ผู้ที่มีโรคทางเดินหายใจ และเด็กหรือหญิงตั้งครรภ์ เนื่องจากอาจไวต่อสารเคมีมากกว่าคนทั่วไป
สามารถลดความเสี่ยงได้โดยเลือกหมึกพิมพ์ที่ปลอดภัย วางเครื่องพิมพ์ในที่ที่อากาศถ่ายเทดี หลีกเลี่ยงการสัมผัสหมึกโดยตรง ทำความสะอาดพื้นที่ทำงานเป็นประจำ และพิมพ์เอกสารเฉพาะที่จำเป็น เพื่อลดการสัมผัสกับสารเคมี
ปัจจุบันมีหมึกพิมพ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เช่น หมึกพิมพ์ที่มี VOCs ต่ำ หมึกพิมพ์จากพืช หมึกพิมพ์ถั่วเหลือง(Soy Ink) หรือหมึกพิมพ์แบบไร้สารโลหะหนัก ซึ่งช่วยลดอันตรายต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม