โรคไต อันตรายกว่าที่คิด ภัยเงียบที่หลายคนมองข้าม

รู้ทันโรคไต ภัยเงียบที่คุกคามคนไทย พบผู้ป่วยถึง 17.5% โดยไม่รู้ตัว เรียนรู้สาเหตุ อาการเตือน วิธีป้องกัน และแนวทางการรักษาที่ถูกต้อง เพื่อห่างไกลจากโรคไตร้ายแรง

โรคไต…ภัยเงียบที่คนไทยมักมองข้าม แต่รู้หรือไม่ว่า คนไทยป่วยเป็นโรคไตถึง 17.5% โดยไม่รู้ตัว! สาเหตุหลักมาจากการบริโภคอาหารที่มีปริมาณโซเดียมสูง ซึ่งเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดโรคไตได้หลายชนิด ทั้งไตวายเฉียบพลัน ไตวายเรื้อรัง กรวยไตอักเสบ เนื้อเยื่อไตอักเสบ นิ่วในไต และมะเร็งไต

ไตเป็นอวัยวะสำคัญที่ทำหน้าที่กรองของเสียและควบคุมสมดุลของเหลวในร่างกาย หากการทำงานของไตผิดปกติ จะส่งผลเสียต่อสุขภาพอย่างมหันต์ แต่โรคไตมักไม่แสดงอาการในระยะแรก ทำให้ผู้ป่วยเสียโอกาสรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ วันนี้เรามาทำความรู้จัก “โรคไต” ภัยร้ายใกล้ตัวที่หลายคนมองข้าม พร้อมวิธีสังเกตอาการ ปัจจัยเสี่ยง และการรักษา เพื่อป้องกันตัวเองและคนที่คุณรักให้ห่างไกลจากโรคไตกันเถอะ


โรคไต คืออะไร

โรคไต คือ ภาวะที่ไตมีความผิดปกติในการทำงาน ทำให้ร่างกายไม่สามารถกำจัดของเสียและรักษาสมดุลน้ำและแร่ธาตุได้ตามปกติ ส่งผลให้เกิดการสะสมของเสียและน้ำส่วนเกินในร่างกาย นำไปสู่ภาวะไตวายในที่สุด

โรคไตแบ่งเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ

1.ไตวายเฉียบพลัน

เป็นภาวะที่ไตสูญเสียการทำงานอย่างทันทีทันใด มักเกิดภายในระยะเวลาน้อยกว่า 3 เดือน สาเหตุหลักมาจากการขาดน้ำ การติดเชื้อ การใช้ยาบางชนิด ยาสมุนไพร และอาหารเสริมที่เป็นพิษต่อไต

2.ไตวายเรื้อรัง

เป็นภาวะที่ไตค่อยๆ เสื่อมสภาพลงอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน มากกว่า 3 เดือนขึ้นไป โดยไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ มักมีสาเหตุมาจากโรคเรื้อรังต่างๆ เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง และโรคถุงน้ำในไต


สังเกตอาการอย่างไร ให้รู้ว่าเสี่ยงเป็นโรคไต

โรคไตมักไม่แสดงอาการที่ชัดเจนในระยะแรก จนกระทั่งเป็นมากแล้วจึงสังเกตเห็นความผิดปกติ ซึ่งอาการของโรคไตที่พบบ่อย ได้แก่

  • ปัสสาวะผิดปกติ เช่น ปัสสาวะบ่อยขึ้น โดยเฉพาะเวลากลางคืน ปัสสาวะมีฟอง สีเข้มหรือขุ่น หรือมีเลือดปน
  • บวมน้ำ ที่เท้า ข้อเท้า ขา ใบหน้า รอบดวงตา มือและนิ้ว เวลากดจะบุ๋ม
  • ความดันโลหิตสูง เกินกว่า 140/90 มม.ปรอท
  • เหนื่อยง่าย รู้สึกอ่อนเพลียตลอดเวลา นอนไม่หลับ
  • คลื่นไส้อาเจียน โดยไม่ทราบสาเหตุ
  • เบื่ออาหาร น้ำหนักลด
  • ผิวแห้งคัน ตามร่างกาย

ใครบ้างที่มีความเสี่ยงเป็นโรคไต

โรคไตเป็นได้ในทุกเพศทุกวัย ตั้งแต่เด็ก วัยรุ่น ผู้ใหญ่ ไปจนถึงผู้สูงอายุ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้มีปัจจัยเสี่ยง ดังนี้

  • ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคตับ
  • ผู้ที่ชอบทานอาหารรสจัด เค็มจัด
  • ผู้ที่ดื่มน้ำน้อยเกินไป ไม่สัมพันธ์กับความต้องการของร่างกาย
  • ผู้ที่ทานยาแก้ปวด ยาสมุนไพร หรืออาหารเสริมเป็นประจำ
  • ผู้ที่มีประวัติโรคไตในครอบครัว
มือกำลังเทเกลือลงบนจานมันฝรั่งทอดพร้อมข้อความเตือน 'โซเดียมสูง' แสดงถึงความเสี่ยงจากการบริโภคเกลือในปริมาณมาก

สาเหตุของโรคไตมีอะไรบ้าง

1.พฤติกรรมการกิน

  • รับประทานอาหารที่มีรสชาติจัด ทั้งเค็ม หวาน มัน
  • บริโภคโซเดียมเกิน 2000 มก.ต่อวัน
  • ดื่มน้ำน้อย ทำให้ไตขาดน้ำ เกิดการสะสมของเสียจนกลายเป็นนิ่ว
  • ระวังอาหารที่ไม่เค็มแต่มีโซเดียมสูง เช่น ซอส น้ำจิ้ม อาหารแปรรูป อาหารหมักดอง

2.พันธุกรรม

  • พบได้ในอัตราส่วน 1:800 ถึง 1:1000 ของประชากร
  • หากพ่อแม่เป็นโรคไต ลูกมีโอกาสได้รับการถ่ายทอดทางพันธุกรรม เช่น โรคถุงน้ำในไต ไตวายจากซีสต์ที่ไตทั้ง 2 ข้าง

3.โรคเรื้อรัง

  • โรคเบาหวาน ทำให้น้ำตาลในเลือดสูง ส่งผลเสียต่อหลอดเลือดในไต
  • โรคความดันโลหิตสูง ทำให้หลอดเลือดไตแข็งตัว การไหลเวียนของเลือดไปเลี้ยงไตลดลง

4.โรคไตอักเสบจากภูมิคุ้มกันทำงานผิดปกติ

  • พบในคนอายุน้อย มักรักษาให้หายขาดได้ เช่น โรคภูมิแพ้ตัวเอง (SLE) โรคไตอักเสบ (IgA Nephropathy)

5.ยาและอาหารเสริม

  • ยาแก้ปวดกลุ่ม NSAIDs เช่น แอสไพริน ไอบูโพรเฟน ไดโคลฟีแนค
  • อาหารเสริมบางชนิด เช่น โสม ถั่งเช่า เห็ดหลินจือ
  • สารพิษบางอย่าง เช่น ยาเคมีบำบัด
ไตที่มีคราบสะสมและเสื่อมสภาพ แสดงความเสียหายของไตจากการบริโภคโซเดียมเกินขนาด ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคไต

แนวทางการรักษาโรคไต

การรักษาโรคไตมีหลากหลายวิธี ขึ้นอยู่กับสาเหตุและระดับความรุนแรงของโรค หากตรวจพบในระยะเริ่มแรก ก็มีโอกาสรักษาให้หายเป็นปกติหรือชะลอความเสื่อมของไตได้ แต่ถ้าปล่อยไว้จนอาการทรุดหนัก การรักษาก็จะยากขึ้น วิธีการรักษาโรคไต มีดังนี้

การรักษาไตวายเฉียบพลัน

มุ่งแก้ไขสาเหตุที่ทำให้เกิดไตวายเฉียบพลัน พร้อมทั้งรักษาตามอาการเพื่อบรรเทาและป้องกันภาวะแทรกซ้อน เช่น

  • หยุดใช้ยากลุ่ม NSAIDs และยาสมุนไพรที่เป็นพิษต่อไต
  • ให้น้ำเกลือเพื่อแก้ภาวะขาดน้ำ
  • ยาขับปัสสาวะเพื่อลดบวม
  • การฟอกไตหรือล้างไตเพื่อทดแทนการทำงานของไต

การรักษาไตวายเรื้อรัง

  1. การปลูกถ่ายไต – สามารถยืดอายุผู้ป่วยได้เฉลี่ย 10-20 ปี ต้องใช้ยากดภูมิคุ้มกันตลอดชีวิตเพื่อป้องกันการปฏิเสธไตใหม่
  2. การล้างไตทางช่องท้อง – ใช้น้ำยาพิเศษผ่านสายล้างไปยังช่องท้องเพื่อดึงของเสียออกจากเลือด ทำวันละ 4-6 ครั้ง
  3. การฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม – ต้องทำ 3 ครั้งต่อสัปดาห์ๆ ละ 4 ชั่วโมง ที่โรงพยาบาลหรือศูนย์ไตเทียมเท่านั้น
  4. การรักษาแบบประคับประคอง – เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่มีโรคอื่นร่วมด้วย เช่น มะเร็ง โรคหัวใจและปอดรุนแรง
  5. การปรับพฤติกรรม – ควบคุมอาหาร งดเค็ม งดสูบบุหรี่ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ไม่ซื้อยากินเอง

สรุป

โรคไต เป็นสาเหตุการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรที่สำคัญของคนไทย เนื่องจากมักไม่แสดงอาการในระยะแรก จนเสียโอกาสทองในการรักษา หากคุณมีอาการผิดปกติที่สงสัยว่าจะเป็นโรคไต อย่ารอช้า รีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจคัดกรองโรคไตโดยด่วน ก่อนที่จะสายเกินแก้ และอย่าลืมดูแลสุข